ตำนาน โมโม๊ทาโร่

คุณน่าจะชอบ : สุขได้ ด้วยการคิดบวก

อธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยความสุขคนไทยขยับขึ้นเหตุจัดสรรเวลาได้ สุขภาพดี ชุมชนปลอดภัย แนะสร้างสุขด้วยการคิดบวก
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่าจากรายงานความสุขโลก ปี ค.ศ. 2016 ประเทศเดนมาร์กเป็นประเทศที่มีความสุขอันดับ 1 ของโลก ส่วนประเทศไทยมีความสุขอยู่ลำดับที่ 33 ของโลกขยับขึ้นจากลำดับที่ 34 ในปีที่แล้ว และ อันดับที่ 36 ในปี 2013 โดยยังคงอยู่ในลำดับที่ 2 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ทั้งนี้ คะแนนความสุขจากการสำรวจ

เป็นผลจากปัจจัยต่างๆ มากมาย ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดย รายงานความสุขโลก ได้สรุปผลการวิเคราะห์ไว้ว่า ปัจจัยกำหนดระดับความสุขของแต่ละประเทศ ขึ้นกับปัจจัยสำคัญห้าประการ ได้แก่ 1.ระดับรายได้ 2. จำนวนปีสุขภาพดี 3. การมี คนช่วยเหลือยามต้องการ 4. ความมีอิสรภาพ และ 5.ระดับการแพร่ระบาดของคอรัปชั่น ซึ่งการที่ประเทศไทยมีความสุขดีขึ้นต่อเนื่อง อาจอธิบายได้ว่า ปัจจัยทั้ง 5 ประการข้างต้นของไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเทียบ กับประเทศอื่น จึงทำให้การจัดลำดับดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังอาจอธิบายได้จากผลการสำรวจความสุขคนไทยที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จากความร่วมมือระหว่างกรมสุขภาพจิต สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ด้วยแบบสำรวจสุขภาพจิตคนไทย ฉบับสั้น 15 ข้อ ที่พบว่า การจัดสรรเวลาสำหรับงาน/ชีวิตส่วนตัว/ครอบครัวได้ดี มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี อาศัยอยู่ในชุมชนที่ปลอดภัย เป็นปัจจัยสำคัญลำดับต้นๆ ที่ส่งผลต่อความสุขของคนไทย โดยพบว่า การจัดสรรเวลาสำหรับงาน/ชีวิตส่วนตัว/ครอบครัวได้ดีจะมีความสุขมากกว่า 4.2 เท่า

ขณะที่ การมีสุขภาพดี จะมีความสุขมากกว่า 3.9 เท่า และการอาศัยอยู่ในชุมชนและสังคมที่ปลอดภัย จะมีความสุขมากกว่า 2.9 เท่า รวมทั้งยังพบว่า การมีสายสัมพันธ์ที่ดีมีแรงเกื้อหนุนทางสังคม ทั้งการมีเพื่อนหรือคนในสังคมคอยช่วยเหลือยามที่ต้องการ มีครอบครัวที่มีความรัก เอื้ออาทรต่อกัน ตลอดจน ยึดหลักศาสนา ทำสมาธิ เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขคนไทยเช่นกัน เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ความสุขของประชาชนเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ไม่ใช่เพียงตัวเลขทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่รวมถึงการมีสุขภาพที่ดี และสังคมที่แข็ง แรงด้วย

สำหรับแนวทางสร้างสุขง่ายๆ ที่สร้างขึ้นได้ในทุกวัน โดยเริ่มจากตัวเอง แล้วส่งต่อความสุขนั้นไปยังคนรอบข้าง ครอบครัว ชุมชน และสังคมต่อไป ด้วยวิธี “คิดบวก” ซึ่งเป็นอีก 1 วิธีสร้างสุข จาก บัญญัติสุข 10 ประการที่ได้ผล และเป็นวิธีที่สมาชิกแฟนเพจสุขสร้างได้ (SUKSANGDAI) ในวัยต่างๆ จากทุกภาคทั่วประเทศ โหวตให้เป็นวิธีสร้างสุข ลำดับที่ 4 ต่อจาก 3 วิธีแรกที่ได้รณรงค์ไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา คือ “ให้เวลา ขยับกาย กระจายสิ่งดี”
“เราทุกคนสามารถสร้างความสุขให้เกิดขึ้นได้ด้วยตนเองในทุกวัน ทุกเวลา และทุกสถานที มาร่วมสร้างความสุขและส่งต่อความสุขไปยังคนรอบข้างด้วยกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อความสุขที่ยั่งยืนของสังคมไทย” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว

credit: หมอดูตัวดำ
credit: TG animation

ภัตตาคารชื่อดังแจง ประเด็นดัง ‘ทัวร์จีน’ เปิดศึกชิงกุ้ง

โลกออนไลน์กำลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก Dream’Bd Manthana‎ ได้โพสต์คลิปความยาวประมาณ 40 วินาที โดยเผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน กำลังแย่งกันตักกุ้ง ในถาดอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ของโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ไม่แน่ชัดว่าใช่ที่ จ.เชียงใหม่ หรือไม่ ก่อนที่คลิปดังกล่าวจะโดนลบออกจากเฟซบุ๊ก

ล่าสุด (21 มี.ค. 59) มีรายงานว่า สื่อออนไลน์ที่ประเทศจีน ก็ได้มีการโจมตีทัวร์จีนกลุ่มนี้เช่นกัน รวมถึงมีการนำเสนอข่าวดังกล่าว ซึ่งคนจีนเองยังรู้สึกอับอายกับการกระทำเช่นนี้ เพราะหลังจากที่แย่งกันตักอาหารมากมาย สุดท้ายก็ทานกันไม่หมด เหลือทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่แค่กุ้งที่เหลือเต็มโต๊ะ แต่ยังมีของคาวหวานอย่างอื่นอีกมากมาย

ทั้งนี้ หลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย โดยส่วนใหญ่กล่าวตำหนิพฤติกรรมดังกล่าวของทัวร์จีนกลุ่มนี้ว่า ไม่เหมาะสม ไร้มารยาท ซึ่งปกติคนจีนก็ขึ้นชื่อเรื่องไม่มีระเบียบวินัย จึงควรมีการอบรมคนในประเทศ

ล่าสุด วานนี้ (25 มี.ค.) “ภัตตาคารชื่อดัง” ซึ่งเป็นสถานที่ที่ปรากฏอยู่ในคลิป แถลงการณ์ ผ่านเว็บไซต์ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว high season ของไทย จึงมีลูกค้าชาวจีนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยขณะนั้น ลูกค้าบางกลุ่มต้องรีบไปสนามบินเพื่อเดินทางกลับประเทศ จึงอาจต้องเร่งรีบในการรับประทานอาหาร

โดยปกติทางภัตตาคารจะจัดสรรเวลาในการรับประทานอาหารของแต่ละกรุ๊ปทัวร์ โดยคำนึงถึงจำนวนคน ปริมาณอาหารและตารางเที่ยวบินของแต่ละกรุ๊ป ทางภัตตาคารยังมีการเตรียมอาหารที่หลากหลายประเภทเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

บริษัทฯเห็นว่า เป็นพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนเป็นส่วนน้อยเท่านั้น ไม่อยากให้คนทั่วไปเหมารวมว่าเป็นพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนทุกคนมีพฤติกรรมไม่ดีหรือไม่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ทางภัตตาคารได้มีการจัดเตรียมและปรับปรุงสภาพแวดล้อม ให้เหมาะสมต่อการรับประทานอาหาร เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติ และเพื่อให้ลูกค้าประทับใจต่อการบริการของภัตตาคาร

ชมคลิป >> แฉ ! คลิปนาที ‘ทัวร์จีน’ ตักอาหารบุฟเฟ่ต์โรงแรม

ขอบคุณภาพ Monica Romanov

เรื่องเล่าหลังเลือดบวก เมื่อสามีและชู้ของเขาหยิบยื่นชีวิตนี้ให้ แน่นอนว่าฉันแพ้

สวัสดีค่ะทุกคน ก่อนอื่นขออนุญาตกล่าวอโหสิกรรมให้แก่ทุกคนที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้ตัวของเราเองเข้าสู่สภาวะติดเชื้อระยะที่สองเป็นที่เรียบร้อย

จากห้วงอารมณ์แรกทั้งเจ็บ แค้น อาย ก็กลายเป็นปลงและปล่อยวาง และต้องประคับประคองกันไป เพราะสามคนผัวเมียที่อยู่ในบ้านตอนนี้ ก็คือผู้ป่วยติดเชื้อด้วยกันทั้งนั้น

(ช่วงที่ต้องฝ่าฝันอาการรำคาญ แชทกันก็มีแค่ตามกลับบ้าน เขาไม่เคยแบ่งปันอะไรเราเลย)

ตอนนี้เราและสามีอายุ 42 ปีเท่ากัน ส่วนอีกคน(ขอเรียกว่า “น้อง” อายุ22) ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้วเราลาออกจากงานประจำมาเพื่อดูแลกิจการที่บ้าน ในขณะที่สามีก็ก้าวหน้าทางราชการขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็แน่นอนว่าเขาเจอคนมากมาย มีโอกาสบริหารเสน่ห์

ในขณะที่เราก็เริ่มเป็นยายป้าหัวฟูอยู่กับบ้าน งดการแต่งตัวและการปาร์ตี้สังสรรค์งานสังคม เลยน่าจะเป็นต้นเหตุให้เขามีคนใหม่เข้ามาในชีวิต (ขอเอ่ยโทษตัวแล้วกันค่ะ)

เรื่องราวเคยย่ำแย่ถึงขนาดที่เคยขอหย่าเพราะผู้หญิงคนใหม่เกิดตั้งครรภ์ แต่ท้ายสุดเขาไม่ยอมและบังคับผู้หญิงคนนั้นทำแท้งจนได้พร้อมกับให้เงินรับผิดชอบไปจำนวนหนึ่ง เชื่อไหมคะ..ว่ามันเป็นตราบาปที่เคลือบไปด้วยความรักและซื่อสัตย์จากเรา หลอกตัวเองว่าเขาเลือกเราจนยอมให้โอกาส แต่นั่นไม่ใช่ครั้งแรกแน่นอน

เพราะเรารู้ว่าเขามีเล็กมีน้อยมาเรื่อย ๆ ซื้อกินนอกบ้านบ้าง จนเราป่วยเป็นโรคซึมเศร้า!! แม่สามีก็เลยหาเด็กรับใช้คนหนึ่งมาช่วยดูแลงานบ้านและดูแลเรา ก็คือ “น้อง” ตอนอายุ 16 ปี

เชื่อหรือไม่ว่าตั้งแต่น้องเข้ามาในชีวิตของเราสามคน สามีเริ่มอยู่ติดบ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ มีมุมอ่อนหวานให้เราเห็นหลายครั้ง แต่คุณรู้ไหมคะว่าเบื้องหลังจากยากล่อมประสาทโรคซึมเศร้าทำงาน พวกเขาก็แอบได้เสียกัน แม้แต่ข้างเตียงที่เราสลึมสลืออยู่พวกเขาก็กอดจูบ เจ็บ...อาย...แต่รักค่ะ

เคยดูละครเรื่องเมียหลวงทางช่องเจ็ดกันไหม? นั่นแหละอารมณ์ของเราเลย เหมือนผู้เขียนกรีดปลายปากกาลงบนหัวใจสุด ๆ

มันเป็นความรู้สึกชา ๆ ที่คิดว่าให้เขามีในบ้านดีกว่าไปที่อื่น เพราะอย่างน้อยน้องก็เคารพเราและรู้ว่าควรอยู่ในจุดไหน แต่ก็ใช่ว่าไม่เกลียด, ไม่อิจฉา แต่สุดท้ายข่าวร้ายก็มาทักทายเราคนแรกเลย.. ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาเราเริ่มมีอาการเจ็บป่วยบ่อย กินอะไรก็อาเจียน ซูบผอม ท้องเสีย จนต้องแอดมิดโรงพยาบาลกลางเดือนมกราคมในที่สุด

จำได้ว่าไปคนเดียวเพราะสามีพาน้องกลับไปเยี่ยมบ้านต่างจังหวัด หมอตรวจเลือดตรวจปัสสาวะเพราะกลัวจะเป็นไข้เลือดออก แต่สุดท้าย...เลือดบวกค่ะ ชีวิตนี้เหมือนพังทลายลงไปต่อหน้า นี่คือแชทที่เราทักไปบอกเขา

วันต่อมาสามีจูงมือน้องมาหาเราที่โรงพยาบาล น้องร้องไห้เหมือนจะขาดใจตายให้ได้ ขอโทษขอโพยเรา เพราะเธอกับสามีก็ตรวจที่คลินิก ตจว. มาแล้วเป็นที่เรียบร้อยปรากฏเลือดบวกทั้งสองคน นาทีนั้นไม่มีน้ำตาจะให้ไหลเลยค่ะ สงสารตัวเอง ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย จนเราออกจากโรงพยาบาลเริ่มหันหน้าเข้าหาทางธรรม

น้องอายุเพิ่งแค่ 22 ปี ยังมีอนาคตอีกไกล กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อให้ครอบครัวเขาและสามีเราภูมิใจ เธอขอกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดและแน่นอนว่าสามีเราร้อนอกร้อนใจขับรถไป-กลับหาเธอแทบทุกวัน

น้องเริ่มกลายเป็นคนซึมเศร้า บางครั้งคิดทำร้ายตัวเองอย่างรุนแรงหลายครั้ง จนสามีเราต้องเสียน้ำตา ไม่อยากเสียน้องไป ขอร้องให้เราช่วยดูแลและเป็นกำลังใจให้กันและกันทั้งสามคน จนเมื่อต้นเดือนน้องก็ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยเหมือนเดิม

ขอบคุณ ที่มา: Boxza

พลาดชนข้างทาง ถูกอัดคลิปประจาน

คลิปรุมกระทืบ ชายหื่นสำเร็จความใคร่ใส่สาวจนขับรถชน พร้อมถ่ายคลิปประจานผ่านเฟซบุ๊ก

วานนี้ (22 มี.ค.) ได้มีผู้ใช้เว็บไซต์ ‘ยูทูป’ เผยแพร่คลิปวีดีโอชื่อว่า ‘เกรียน— (สำเร็จความใคร่)ใส่เเฟนพี่ผม สุดท้ายหนีเเล้วพลาดขับชนข้างทาง วิภาวดี’

พร้อมเขียนคำอธิบาย ‘เกรียน—(สำเร็จความใคร่)ใส่เเฟนพี่ผม สุดท้ายหนีเเล้วพลาดขับชนข้างทาง วิภาวดี’

‘คือเรื่องมันมีอยู่ว่าแฟนพี่ผมยืนซื้อของอยู่ แล้วได้มีรถเก๋งคันสีขาว(คันที่อยู่ในคลิป)ได้ขับรถผ่านมาแล้วจอดเปิดกระจก— (สำเร็จความใคร่) ให้แฟนพี่ผมดู จากนั้นได้ขับรถออกไป และขับรถวนกลับมาที่เดิมตรงที่เกิดเหตุ พวกผมได้ขี่มอไซค์ไล่ตาม ไอว่าวขับรถหนีไปทางขึ้นทางด่วนด้วยความเร็ว ทำให้รถเก๋งชนข้างทางเสียหลักล้อหน้าหัก แล้วเรื่องก็เป็นอย่างที่เห็น
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไอว่าวรายนี้โดนจับข้อหาอนาจารมาแล้ว 2-3ครั้ง’

โดยเนื้อหาในคลิป ได้มีกลุ่มชายขับจักรยานยนต์ไล่ตามชายที่ปรากฏอยู่ในคลิป ซึ่งขับรถเก๋งคันสีขาวประสบอุบัติเหตุอยู่ พร้อมทั้งรุมทำร้าย และด่าทอ ชายที่ก่อเหตุอนาจารขึ้น แต่ผู้ก่อเหตุพยายามยกมือไหว้ขอโทษ และร้องขอให้ปล่อยตนไป แต่กลุ่มชายที่ขับจักรยานยนต์ตามมาได้เรียกเจ้าหน้าตำรวจ มาไกล่เกลี่ยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่สุด…



ขอบคุณข้อมูลจาก Kittichai Huadsuwan

“ชุดกินรี” อวดอึ๋ม ของ “ปอไหม” ถูกยกเป็นชุดประจำชาติที่สวยที่สุดในโลก !!

ทำเอาแฟนนางงามไทยฮือฮาไม่น้อย เมื่อเว็บไซต์ “โกลบอล บิวตี้” เว็บไซต์นางงามชื่อดังของโลก ประกาศรางวัลนางงามที่สุดในแต่ละประเภทของปี 2015 จากเวทีนางงามทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นมิสยูนิเวิร์ส ,มิสเวิลด์, มิสซูปราเนชั่นแนล, มิสแกรนด์ ,มิสอินเตอร์เนชั่นแนล และงานนี้ “ปอไหม รัตติกร ขุนโสม” มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2015 รองอันดับ 4 มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล มีชื่อติดได้รับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม เฉือนชนะคู่แข่งจากประเทศต่างๆ รวมทั้งสามารถเอาชนะชุด “ตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์” ของสาว”แนท อนิพรณ์” ด้วย

สำหรับชุด”จันทกินรี” รังสรรค์โดยห้องเสื้อ เมอเรียด แกรนด์ มอนด์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก “กินรี” สัตว์สวรรค์ที่เป็นตัวแทนแห่งอิสรภาพและความรัก สืบเนื่องจากตำนานในพระพุทธศาสนาดังที่ได้กล่าวไว้ในทศชาติชาดก ตอน จันทกินรี จากคติความเชื่อนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นในงานนาฏกรรม จิตรกรรม และประติมากรรมของไทย จึงหยิบยกเอาความสวยงามจากงานจิตรกรรมผนวกกับประติมากรรมไทยไว้ในชุด “จันทกินรี”

credit: patjaa

พี่ชายจูงมือน้องหนีออกจากบ้าน เดินจากชลบุรีจนถึงบางปะกง ก่อนโรคหัวใจกำเริบ ขอความช่วยเหลือด่วน

ขอความช่วยเหลือด่วนมา ณ ที่นี้ สำหรับใครที่คิดว่ารู้จักหรือเป็นญาติของเด็กทั้งสองคน ช่วยติดต่อครอบครัวหรือเดินทางมาดูแลอาการป่วยของน้องด่วน ! สืบเนื่องจากพี่ชายจูงมือน้องหนีออกจากบ้าน เพราะได้ทะเลาะกับพ่อของตนเอง ก่อนจะเก็บเสื้อผ้าออกเดินเท้าไปบ้านป้าที่อำเภอบางบ่อ แต่แล้วก็เกิดอาการโรคหัวใจกำเริบกลางทาง

พี่ชายเมื่อขณะถูกนำส่งโรงพยาบาล

ขอบคุณภาพจาก ราชสีห์ จิตอาสา

ไม่หลงเหลือคราบสาวหมวย เธอกล้าและมั่นมาก!

เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของ แพรวา ฮอร์โมน เลยก็ว่าได้ สำหรับการ "เปลี่ยนสีผม" สุดแซ่บของเธอในครั้งนี้ เพราะมันทำให้เธอเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน

แพรวาคนเดิม

และในวันนี้เรามีภาพแรกของ แพรวา ฮอร์โมน หลังจากเปลี่ยนสีผมมาให้ได้ชมกัน พูดเลยว่าหลังทำเสร็จคือ "พีค" หนักมาก! เพราะไม่คิดว่า สาวหมวย ดูหวาน ๆ อย่าง น้องแพรวา จะย้อมผมสีแรงขนาดนี้! และนั่นคือ สีควันบุหรี่ ต้องใช้การกัดและย้อม หลายรอบเชียวล่ะกว่าจะได้ขนาดนี้!

ขอบคุณภาพจาก IG @nichaphatc

ถ้าคุณ "วางเตียงนอน" แบบนี้ มันอาจจะทำให้นอนป่วย ปวดหัว ได้ไม่รู้ตัว!

วันนี้ทีมงาน สยามอัพเดท ได้มีแฟนเพจเข้ามาปรึกษาว่า ทำไมนอนตื่นมาถึงปวดหัว นอนหลับไม่สนิท หนักหัว มีแต่เรื่องโชคร้าย
เมื่อได้สอบถามข้อมูลแล้ว อาจจะเป็นได้ว่า ตำแหน่งเตียงนอน ผิดหลักฮวงจุ้ย ทำให้เกิดเรื่องร้ายๆเข้ามาในชีวิตเรา

ตำแหน่งเตียงภายในห้องนอน นับได้ว่าเป็นแกนหลักสำคัญของห้องนอน หากตั้งไม่ตรงตำแหน่งที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ เนื่องจากร่างกายของคนเราจะมีสนามพลังที่เกิดจากการไหลเวียนภายในร่างกาย หากอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ณ ขณะที่กำลังนอนหลับสนามพลังดังกล่าวก็จะหมุนเวียนได้คล่องตัว สมดุลกับสนามแม่เหล็กของโลก โดยตำแหน่งที่เหมาะสม ตามหลักฮวงจุ้ยจีน มีดังต่อไปนี้

1. หลีกเลี่ยงการตั้งเตียงให้ตรงกับประตู เพราะทำให้คนภายนอกเห็นได้ง่าย อาจรบกวนความเป็นส่วนตัว จึงส่งผลต่อการพักผ่อน อีกทั้ง ประตู ยังเป็นทางผ่านของพลังลมด้วย เมื่อเตียงอยู่ตรงกับทางผ่านลม ร่างกายก็ย่อมได้รับผลกระทบไปเต็มๆ จึงไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง

2. หลีกเลี่ยงการตั้งหัวเตียงอยู่ใกล้ประตู เพราะหากบังเอิญมีคนเดินผ่าน หรือเปิดประตูเข้ามา อาจทำให้การผักผ่อนของคุณเป็นไปอย่างสะดุด พักผ่อนไม่เต็มที่ เพราะอาจตกใจตื่นได้โดยง่าย

3. ควรวางเตียงในแนวทิศเหนือใต้ ตามหลักวิทยาศาสตร์นั้น การวางเตียงในแนวเหนือใต้เป็นการคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้เลือดหมุนเวียนสอดคล้องกับแรงโน้มถ่วง ส่งผลให้ผู้อาศัย นอนหลับได้ง่าย หลับอย่างสบาย และแน่นอนว่าส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย

4. หลีกเลี่ยงการวางเตียงไว้ใต้คาน ตามตำราฮวงจุ้ยจีนโบราณ กล่าวว่า การวางเตียงที่นอนไว้ใต้คาน ทำให้เกิดความกดดัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะบริเวณศรีษะ อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวเหมือนมีอะไรมากดทับ อาจส่งผลให้ล้มป่วยได้ง่าย

5. หลีกเลี่ยงการนำอุปกรณ์แขวน มาไว้บนหัวเตียง อุปกรณ์ประเภทแขวน อย่างเช่น โคมไฟ พัดลม กรอบรูป แอร์ หรืออื่นๆ ไม่ควรนำมาไว้บนหัวเตียง เนี่ยงจากทำให้เกิดแรงกดดันเช่นเดียวกับการไว้เตียงไว้ใต้คาน ส่งผลให้ผู้นอน ล้มป่วยได้ง่าย สุขภาพไม่ดี นอนหลับไม่สนิท

6. หลีกเลี่ยงการวางกระจกไว้หน้าเตียง อาจทำให้ผู้นอนเกิดภาวะจิตใจหดหู่ได้ อ่อนแอ และนอนหลับไม่สนิท

7. หลีกเลี่ยงการวางเตียงตรงกับประตูห้องน้ำ หากประตูห้องนอนอยู่ตรงกับเตียง ทำให้ความชื้นส่งผลกระทบเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย เมื่อร่างกายสัมผัสความชื้น ก่อให้เกิดการเจ็บป่วย ไม่สบาย ทำให้สุขภาพไม่แข็งแรง อีกทั้ง หากมีการเข้าออกห้องน้ำ อาจทำให้ผู้นอน เกิดการนอนหลับไม่สนิทได้เช่นกัน

8. หลีกเลี่ยงการปล่อยหัวเตียงให้โล่ง หัวเตียงเปรียบเสมือนความมั่นคง ตามหลัก ฮวงจุ้ยจีนโบราณ กล่าวว่า การหันหัวเตียงให้ชนกับผนัง เป็นการสร้างความมั่นคง แต่หากหัวเตียงโล่ง อาจทำให้ผู้อาศัย เกิดความไม่มั่นคงได้ และหากหันหัวเตียงอยู่ชิดติดเสา จะเท่ากับว่า เตียงชิดผนังแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ก็ยังไม่เป็นตำแหน่งที่ดีตามหลัก ฮวงจุ้ย เช่นกัน

9. หลีกเลี่ยงการวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ปลายเตียง เพราะถือว่า เป็นการแสดงความไม่เคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างร้ายแรง ดูไม่เป็นมงคล

10. หลีกเลี่ยงการจัดวางเตียงไว้ใต้บันได ตามหลักฮวงจุ้ย ถือว่า การวางเตียงไว้ใต้บันได ไม่ต่างอะไรกับการไว้ไว้ใต้คาน ส่งผลกระทบเช่นเดียวกับการไว้ใต้คาน อีกทั้ง ยังส่งผลการรบกวน เมื่อมีผู้อื่นเดินผ่านบันได อาจส่งผลให้ผู้นอนอาศัย พักผ่อนอย่างไม่สนิท รวมถึงอาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองล่วงหล่นกระจายลงสู่เตียง ทำให้ผู้อยู่อาศัย สุขภาพไม่แข็งแรง เกิดอาการภูมิแพ้ได้โดยง่าย

สรุป การวางตำแหน่งเตียงนอน ให้ถูกต้องตามหลัก ฮวงจุ้ย จีนโบราณนั้น ให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกายของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก หากวางในตำแหน่งที่ถูกต้อง ก็จะส่งผลให้ผู้อยู่อาศัย มีสุขภาพกาย และใจ ที่แข็งแรงสมบูรณ์ ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ การพักผ่อนที่ดี ย่อมส่งผลต่อสภาพชีวิตที่ดี หากเราสังเกตุกันโดยง่าย วันใดก็ตาม ที่มีการพักผ่อนอย่างเต็มที่ นอนหลับสนิท ตื่นมาวันรุ่งขึ้นเราจะมีสุขภาพจิตที่ดี พร้อมที่จะลุยกับทุกๆสถานการณ์ จะดีแค่ไหน หากเป็นเช่นนั้น ทุกๆ วัน วันนี้ ขอจบ บทความ ฮวงจุ้ย กับตำแหน่งของเตียงนอน ไว้เพียงเท่านี้

credit: siamupdate

หลังผู้ว่าเปลี่ยนผ้าสไบ ย่าโม ล่าสุดเรื่องทั้งหมดคือแบบนี้ ขนลุก !

กลายเป็นที่ฮือฮาแตกตื่นของชาวบ้านจังหวัดโคราช หลังจากมีคลิปได้ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ โดยปรากฏภาพหญิงวัยกลางคน แต่งกายชุดไทยสีแสด ได้ขึ้นบันไดที่วางไว้ด้านหลังรูปหล่อท้าวสุรนารี สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง จากนั้นได้แสดงพฤติกรรมร่ายรำ
จน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.เมือง ต้องรีบขึ้นไปนำตัวลงมา ท่ามกลางความแตกตื่นของประชาชนจำนวนมากที่มากราบไหว้สักการะ จนเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม เป็นการหลบหลู่ย่าโม ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง


จากการสอบถามนายโอม ช้างทอง อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณลานย่าโม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา ในขณะเจ้าหน้าที่ อส. ฯ กำลังจัดเตรียมพื้นที่ เพื่อจัดกิจกรรมบวงสรวง เนื่องในโอกาสเป็นวันฉลองชัยชนะของย่าโมประจำปี โดยนำบันไดเหล็กสูงประมาณ 3 เมตร มาวางเป็นทางขึ้นไปด้านหลังรูปหล่อย่าโม เพื่อให้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการ ประกอบพิธีบวงสรวงถวายเครื่องสักการะและเปลี่ยนผ้าสไบ
แต่กลับมีหญิงไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50 ปี คาดเป็นร่างทรงที่มาร่วมพิธีเป็นประจำทุกปี ได้ขึ้นบันไดขึ้นไปร่ายรำแล้วชูมีดดาบ ข้างรูปหล่อฯ เจ้าหน้าที่ อส. จึงรีบนำตัวลงมา การกระทำดังกล่าว มิใช่เป็นผู้ป่วยโรคจิต สาเหตุตามที่อ้าง มีความเลื่อมใส ศรัทธา ในความศักดิ์สิทธิ์ของดวงทิพย์วิญญาณย่าโม วีรสตรีกู้ชาติของเมืองโคราช



Credit: Khaosod TV

ต้าเหนิงแค่เพื่อน แท้จริงกิ๊กเน็ตไอดอลที่หนุ่มทั่วประเทศปลื้มคนนี้ หลักฐานแน่น!

บอกเลยว่างานนี้ เจเจ หรือ เจเจ กฤษณภูมิ หนุ่มตี๋ที่ฮอตมากในตอนนี้ มีการ สับขาหลอก เราซะแล้วล่ะ เพราะมีข่าวว่าตอนนี้เขากำลังกิ๊กกั๊กอยู่กับ ต้าเหนิง กัญญาวีร์ แต่ความจริงอาจจะไม่ใช่แบบนั้น!

เสน่ห์แรงเว่อร์!

เพราะความจริง ต้าเหนิง กัญญาวีร์ อาจจะเป็นแค่เพื่อน เพราะมีชาวเน็ตตาดีสังเกตเห็นบางอย่าง เมื่อหนุ่ม เจเจ ลงรูป และมี เน็ตไอดอลสาวสวย ที่พวกเรารู้จักเธอจากการเป็น พริตตี้ สุดฮอต! เข้ามาคอมเม้นท์ใต้ภาพของหนุ่ม เจเจ ว่า "น่ารัก" และเธอคนนั้นเธอคือ "น้องโบกิ" สาวที่หนุ่มค่อนประเทศหลงใหล!

ยอมรับแบบแมนๆเลยฮะ!

เซ็กซี่เว่อร์!

กิ๊กกันจริงมั้ยน้าาาา?

แซ่บค่าาาา

ใสๆวัยนักศึกษา

ขอบคุณภาพจาก IG @mybowlki,@thanaerngnin

ที่ไหนได้ มันคือโรคร้ายที่มาจากพฤติกรรมที่พวกเราทำ!!!

ทุกวันนี้ ตาของพวกเราต้องเผชิญกับสิ่งเร้าที่ก่อให้เกิดผลเสียกับสายตามากขึ้น ซึ่งผลของมันอาจลุกลามไปไกลกว่าที่เราเคยเรียนรู้ อย่างชายคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นโรคตาแดง แต่ทันทีที่ตรวจ มันกำลังเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้น
เรื่องราวกรณีศึกษา ของผู้ป่วยชายวัย 40 ปี ที่เข้ามาพบจักษุแพทย์ ด้วยอาการตาแดงและเริ่มมองภาพไม่ค่อยชัด

แพทย์ซักถามพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน แล้วความจริงก็ปรากฏ ผู้ป่วยรายนี้ ติดนิสัยเล่นโทรศัพท์มือถือในห้องที่ปิดไฟมืดก่อนเข้านอน

และเมื่อแพทย์ ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด สิ่งที่ค้นพบ ทำเอาชายคนนี้ต้องเสียใจอย่างที่สุด มันไม่ใช่โรคตาแดง

แต่มันคือ มะเร็งที่ดวงตา!!! ข่าวร้ายคือ แพทย์ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ยังไม่มีเทคโนโลยีอะไรในการเปลี่ยนจอตาได้…

มาเป็นร่องงงงง #news2day วิธีการใช้งาน & คลิปเด็ด 1 & Shareอย่าลืมคลิก ติดตามเพจ เพื่อข่าวดีดี

Posted by News 2Day on Wednesday, March 23, 2016

อุทาหรณ์ที่ได้จากเรื่องนี้คือ การเล่นโทรศัพท์ในที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ นำไปสู่ปัญหาที่ตาของเราจะต้องรับเอาแสงจากหน้าจอโทรศัพท์โดยตรง มีความเข้มข้นสูง เกิดอาการตาแห้ง แล้วเมื่อเราทำแบบนั้นทุกวัน ก็จะเกิดการสะสม นำไปสู่สาเหตุของมะเร็งที่จอตาในที่สุด
ที่มา : thaiautocars

ช็อก!! สาวใจเด็ด แหกเต้าโชว์ ทำเอาชาวเน็ตเห็น ถึงกับดึงสติกลับแทบไม่ทัน เพราะเธอโพสต์ภาพแบบนี้!

สาวใจเด็ด แหกเต้าโชว์ ทำเอาชาวเน็ตเห็น ถึงกับดึงสติกลับแทบไม่ทัน เพราะเธอโพสต์ภาพแบบนี้!

ที่มา BaaBinz

การ์ตูนทะลึ่ง สุดฮา ตอน ขมคอ ตอนจบอย่างฮา

ที่มา หมอดูตัวดำ